ลิสเซิม โลจิสติกส์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเล เราให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลครอบคลุมทุกจุดหมายปลายทางด้วยคุณภาพและการจัดส่งที่ตรงตามกำหนดเวลา ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของทีมผู้บริหารที่ให้บริหารรับจัดการขนส่งที่มีมามากกว่า 10 ปีนั้น ทำให้เรามีเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมทั่วโลก
ส่งผลให้เราสามารถนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีบริการจัดการขนส่งทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น สินค้าแตกหักง่าย สินค้าอันตราย สินค้าที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการจัดส่ง อาหาร สิ่งทอ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค ยา อุปกรณ์ก่อสร้าง หรืออะไหล่ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการขนส่งที่ดีที่สุดที่สุดจากเรา
ทีมงานลิสเซิม โลจิสติกส์ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลูกค้า
บริการของเรา
- บริการขนส่งแบบบรรจุเต็มตุ้คอนเทเนอร์
- บริการขนส่งแบบไม่บรรจุไม่เต็มตู้คอนเทเนอร์
- บริการขนส่งที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณภูมิ
- บริการใช้อุปกรณ์เฉพาะด้านในการขนส่ง เช่น การบรรจุสินค้าแบบไม่มีเพดานบน
- บริการขนส่งสินค้าอันตราย
- บริการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
- บริการขนส่งสินค้าเทกอง
- การให้บริการที่ยืดหยุ่น ไม่ว่าจะขนส่งจากโรงงานต้นทางถึงปลายทาง จากท่าต้นทางถึงท่าปลายทาง หรือตามความต้องการของลูกค้า
ในการทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกนั้นผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้วิธีในการขนส่งรวมถึงบริหารจัดการสินค้าได้ตามความเหมาะสม ในวันนี้ Lissom Logistics จะมาพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับบริการ Freight Forwarder ว่ามีข้อดีอย่างไร และมีการให้บริการอย่างไรกันครับ
1. ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าหรือประสานงานกับผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ทั้งทางเครื่องบิน ทางเรือและทางรถ (Transportation Provider)
2. เป็นตัวแทนในการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของผู้ส่งออกและผู้นำเข้า (Forwarding Business)
3. เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้นำเข้า-ส่งออกเพื่อปฏิบัติพิธีการศุลกากร (Custom Broker) ในกรณีที่บริษัท Freight Forwarder นั้นๆ ได้ทำการจดทะเบียนเป็น shipping แล้ว
4. ให้บริการจัดการโรงพักสินค้าหรือโกดังเก็บสินค้า ซึ่งบริษัท Freight Forwarder อาจเป็นผู้บริหารจัดการเองหรือมีการใช้บริการโรงพักสินค้ากับผู้ประกอบการอื่นที่มีโรงพักสินค้าไว้บริการ (Warehouse)
5. ให้บริการทางด้านแรงงาน คนงาน ในการบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ (Labor)
6. ให้บริการด้านการบริหารโลจิสติกส์ หรือการกระจายสินค้า (Logistics Service)
7. ให้บริการด้านคำปรึกษาเกี่ยวกับการส่งออกและนำเข้า (Business Consultant)
8. ให้บริการดำเนินการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) โดยแต่ละโหมดจะมีผู้ให้บริการขนส่งหรือนิติบุคคลที่รับผิดชอบแตกต่างกัน ซึ่ง Freight Forwarder บางเจ้าอาจไม่มีการให้บริการประเภทนี้
ในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ผู้นำเข้า-ส่งออกจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่กรมศุลกากรและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ให้ครบถ้วน บริการ Freight Forwarder จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า
ทั้งนี้การให้บริการ Freight Forwarder ยังครอบคลุมไปถึงการจัดการเอกสาร และการยื่นใบขออนุญาตต่างๆในการนำเข้า-ส่งออกอีกด้วย และในบางบริษัท Freight Forwarder ก็อาจมีข้อจำกัดในการให้บริการที่แตกต่างกัน บริษัท Lissom Logistics จึงมีการให้บริการที่ครบวงจรด้วยเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมทั่วโลก และนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายในการให้บริการจัดการขนส่งและสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้า รวมไปถึงการให้บริการจัดการขนส่งสินค้าที่มีความซับซ้อนจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้แบบ one stop services
การขนส่งทางอากาศเป็นการขนส่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว คือมีความรวดเร็วในการขนส่งเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งรูปแบบอื่นๆสำหรับกระบวนการขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในกระบวนการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ ประกอบด้วยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการดังนี้
ผู้ส่งออกสินค้า (Shipper) หมายถึง ผู้ที่ต้องการส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศในที่นี้คือผู้ที่ต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ
ตัวแทนรับขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) คือ ผู้มีหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ส่งออกในการจัดการขนส่งสินค้าของผู้ส่งออกไปยังเมืองปลายทาง บางรายทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ส่งสินค้ากับผู้รับขนส่งสินค้า บางรายอาจทำหน้าที่เป็นผู้ขนส่งสินค้าโดยตรง
สายการบิน (Airline หรือ Carrier) คือ ผู้ที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยผู้ให้บริการประเภทนี้จะเป็นเจ้าของระวางสินค้า ซึ่งจะขายระวางบรรทุกให้แก่ผู้ส่งออกโดยตรงส่วนหนึ่ง และยังขาย ระวางสินค้าให้แก่ผู้ให้บริการประเภทตัวแทนรับขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อนําไปขายต่อให้กับผู้ส่งออกด้วย รวมถึงยังทําหน้าที่เป็นผู้ให้บริการรับขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทาง และเป็นผู้ให้บริการที่ออกหนังสือใบตราส่งสินค้าหรือที่เรียกว่า Master Air Waybill
ผู้รับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ (Air Courier) ปัจจุบันมีผู้ให้บริการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศทั้งขนาดใหญ่ที่มีฝูงบินเป็นของตนเอง และผู้ให้บริการขนาดเล็กที่ซื้อระวางมาจากสายการบินอีกทอดหนึ่ง โดยผู้ให้บริการประเภทนี้เน้นการขนส่งสินค้าที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว สินค้าที่ใช้บริการการขนส่งเป็นสินค้าที่มีขนาดเล็กและเบา เน้นการ ให้บริการแบบรับ-ส่งของถึงที่ คือ เป็นการรับของจากผู้ส่งที่ต้นทาง จากนั้นจะดำเนินพิธีการทางศุลกากร ทั้งในประเทศต้นทางและปลายทางให้และส่งให้กับผู้รับปลายทาง โดยจะมีการเก็บค่าบริการแบบเหมา จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บที่ต้นทาง โดยผู้รับปลายทางจะชําระเพียงค่าใช้จ่ายด้านภาษีอากรและค่าบริการทางเอกสารพิธีการศุลกากรเท่านั้น ปัจจุบันผู้ให้บริการในลักษณะนี้รายใหญ่ ๆ ของโลก ได้แก่ DHL, FedEx และ UPS
ผู้รับขนส่งพัสดุไปรษณีย์อากาศระหว่างประเทศ (Air Parcel Post) การขนส่งพัสดุไปรษณีย์อากาศระหว่างประเทศ จะมีเงื่อนไขดังนี้คือ สินค้าที่รับขนส่งจะต้องมีน้ำหนักต่อชิ้นไม่เกิน 10 กิโลกรัม และเป็นการขนส่งที่ให้บริการโดยกรมสรรพากร ซึ่งมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน โดยผู้ส่งออกจะต้องนําสินค้าไปส่งยังที่ทำการไปรษณีย์ต้นทาง และเป็นการส่งของถึงมือผู้รับโดยตรงที่ปลายทาง เว้นแต่เป็นของที่มีภาษีอากรมาก ซึ่งการชําระค่าไปรษณีย์อากรนั้นจะต้องชําระที่ต้นทางและผู้นําเข้าที่ปลายทางก็ชําระเพียงค่าไปรษณีย์อากรเท่านั้น เช่น บริการ EMS World e-Packet พัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ เป็นต้น
ตัวแทนผู้รับสินค้าปลายทาง (Oversea Agent) คือ ผู้ที่ทำหน้าที่รับสินค้าและดำเนินการจัดส่ง รวมถึงดำเนินพิธีการศูลกากรให้ผู้นำเข้าปลายทาง
ผู้นําเข้า (Consignee) คือ ผู้รับสินค้าปลายทางที่ขนส่งมาทางอากาศ
การบริการขนส่งสินค้าทางอากาศในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะมีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นไปตามเงื่อนไขการค้า รวมไปถึงเอกสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ปัจจุบัน บริษัทขนส่งสินค้าโดยตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ มีการให้บริการหลากหลายรูปแบบเพื่อการบริการลูกค้าอย่างครบวงจร
วันนี้ Lissom Logistics ได้รวบรวม 10 บริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำ ที่ได้ชื่อว่ามีศักยภาพในการบรรทุกสินค้า มีชื่อเสียงยาวนานระดับโลก และให้มีการให้บริการระดับมาตรฐานสากลมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ
1. APM-Maersk
Maersk Shipping Line เป็นสาขาหนึ่งของบริษัท AP Moller-Maersk Line และเป็นบริษัทขนส่งสัญชาติเดนมาร์ก เป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับสายการเดินเรือสมุทรตั้งแต่ปี 1904 ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเรือ 711 ลำ มีความจุประมาณ 4,087,480 TEU (หน่วยเทียบเท่า 20 ฟุต)
2. MSC : Mediterranean Shipping Company
เป็นบริษัทเดินเรือเมดิเตอร์เรเนียน ย่อมาจาก MSC เป็นบริษัทขนส่งระหว่างประเทศของสวิสเซอร์แลนด์ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1970 ปัจจุบันมีเรือจัดส่งสินค้ามากกว่า 524 ลำ และกลุ่มบริษัทถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก ความจุของตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 3,308,955 TEU
3. COSCO
บริษัท China Ocean Shipping หรือตัวย่อ COSCO เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำด้านการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันมีการดำเนินงานของบริษัทมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนเรือ 461 ลำ และความจุของตู้คอนเทนเนอร์อยู่ที่ 2,792,448 TEU
4. CMA-CGM
CMA-CGM เป็นบริษัทเรือขนส่งสินค้าชั้นนำของฝรั่งเศส ได้เข้ามามีบทบาทในปี 1978 เป็นผลมาจากการควบกิจการระหว่างบริษัทขนส่งที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน Jacques Saade ผู้เป็นหัวหน้าของบริษัท ได้เป็นแรงผลักดันและอยู่เบื้องหลังของการดำเนินงาน ปัจจุบันมีเรือมากกว่า 505 ลำ โดยให้บริการ 150 เส้นทางทั่วโลก และมีความจุตู้คอนเทนเนอร์ 2,643,745 TEU
5. Hapag-Lloyd
Hapag-Lloyd มีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในเยอรมัน เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดในแง่บริษัทการเดินเรือระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 โดยเป็นผลมาจากการควบกิจการระหว่างสายฮัมบูร์ก-อเมริกัน และบริษัท Lloyd เยอรมันเหนือ ปัจจุบันมีจำนวนเรือยาวมากกว่า 231 ลำ รองรับความจุของตู้คอนเทนเนอร์ 1,644,565 TEU
6. ONE-Ocean Network Express
One-Ocean Network Express ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 เป็นการรวมตัวกันของบริษัทขนส่งหลักทั้ง 3 แห่ง คือ MOL, ‘K’-Line และ NYK เพื่อเสริมสร้างการบริการในเอเชียละตินอเมริกาและแอฟริกา ถึงแม้จะก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น แต่สำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ การเป็นพันธมิตรของทั้ง 3 บริษัท ทำให้มีจำนวนเรือรวม 217 ลำ ความจุของตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 1,521,702 TEU ทำให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
7. Evergreen Line
Evergreen Marine Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 โดย ดร. Yung-Fa Chang ซึ่งมีวิสัยทัศน์อันยาวไกล ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วโลกและมีจำนวนเรือมากกว่า 203 ลำ และเรือบรรทุกสินค้าขนาดความจุ 1,219,406 TEU
8. Yang Ming Marine Transport
Yang Ming Marine Transport ตั้งอยู่ในเมืองจีหลงของประเทศไต้หวัน เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี 1972 โดยบริษัทได้ให้บริการทั่วเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา และออสเตรเลีย มีเรือจำนวน 96 ลำ และมีความจุของตู้คอนเทนเนอร์ 627,725 TEU
9. Hyundai Merchant Marine
Hyundai Merchant Marine เป็นบริษัทขนส่งตู้สินค้าชั้นนำที่อยู่ในเกาหลีใต้ มีเรือทั้งหมด 72 ลำ ซึ่งมีความจุในการบรรทุกสินค้า 424, 724 TEU โดย Hyundai Merchant Marine ถือเป็นบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของโลกที่ทำงานอย่างครบวงจร ทั้งนี้ HMM ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีอีกด้วย
10. PIL Pacific International Line
Pacific International Line ก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 1967 เป็นหนึ่งในเจ้าของเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งตู้สินค้าชั้นนำของโลก PIL ให้บริการมากกว่า 500 แห่ง ใน 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนเรือ 128 ลำและมีความจุในการบรรทุกสินค้า 420,039 TEU
การขนส่งสินค้าโดยตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นการขนส่งระดับโลกในองค์กรการค้า และเติบโตก้าวหน้าในระดับสากลเป็นที่เรียบร้อย More »